Top Tips ในการเลือกโรงเรียนให้กับลูก
หนึ่งในคำถามสำคัญสำหรับพ่อแม่ส่วนใหญ่ คือ จะให้ลูกเข้าเรียนที่โรงเรียนไหนดี
เรามีคำแนะนำ สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครอง ให้พิจารณาปัจจัยสำคัญๆ ต่างๆ ดังต่อไปนี้ ค่ะ
1. เลือกโรงเรียนที่เหมาะสมกับบุคลิกลักษณะของลูก
พ่อแม่ควรพิจารณาและหมั่นสังเกตให้ดีว่าลูกของเรา มีลักษณะนิสัยแบบไหน มีสไตล์การเรียนรู้อย่างไร มีความต้องการด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษหรือไม่
เด็กแต่ละคน มีบุคลิกลักษณะที่แตกต่าง ทุกคนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เด็กบางคนอาจจะต้องการ การเรียนการสอนที่เป็นระบบแบบแผน เน้นเรื่องระเบียบวินัย เด็กบางคนชอบสำรวจ ทดลอง ค้นคว้า ได้ลงมือทำ เด็กบางคนอาจจะเหมาะสมกับโรงเรียนทางเลือก ที่ไม่เน้นวิชาการ เด็กบางคนเหมาะสมกับสังคมโรงเรียนขนาดใหญ่ เด็กบางคนโดดเด่น หากได้เรียนในโรงเรียนขนาดเล็ก เด็กบางคนมีความสนใจ และมีความถนัดด้านใดด้านหนึ่งโดยเฉพาะ เช่น ด้านดนตรี หรือ ด้านกีฬา หรือ ด้านภาษาต่างประเทศอย่างเห็นได้ชัดเจน พ่อแม่ก็ควรจะเลือกโรงเรียนที่สามารถตอบโจทย์ความถนัด ความสามารถ และ ความต้องการที่เหมาะสมสำหรับลูก
2. เลือกโรงเรียนที่เหมาะสมกับบุคลิกลักษณะของครอบครัว
ตามค่านิยมของครอบครัวด้วย นอกเหนือไปจาก การพิจารณาฐานะทางการเงิน สำหรับค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่าย ยังรวมไปถึงการเดินทางด้วย ปัจจุบัน โรงเรียนส่วนใหญ่ มักจะเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองได้เข้าไปเยี่ยมชมในวัน Open Day หรือ ตามวันที่ได้นัดหมาย ผู้ปกครองควรใช้โอกาสเยี่ยมชมในวันดังกล่าว ทำความคุ้นเคย และ สังเกตให้ถี่ถ้วน ถึงลักษณะการบริหารจัดการของโรงเรียนนั้น ว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับคุณค่าที่ครอบครัวของคุณให้ความสำคัญหรือไม่
3. พิจารณาคุณลักษณะของโรงเรียน ตามรายการต่างๆ ดังนี้
- ปรัชญาการเรียนการสอนของโรงเรียน ซึ่งเป็นแนวทางของการบริหาร การจัดการและรูปแบบการเรียนการสอนของครู
- วิธีการสอนและกระบวนการสอน เป็นแบบเน้นทฤษฎี หรือเน้นภาคปฏิบัติ การทำกิจกรรม การทำงานกลุ่ม โครงการ ฯลฯ
- จำนวนนักเรียนต่อห้อง และ อายุของเด็กนักเรียนแต่ละชั้น คละกันหรือไม่
- สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ และ สถานที่ภายในโรงเรียน อาทิเช่น ห้องสมุด ห้องน้ำ โรงอาหาร ห้องประชุม ตลอดจน ความพร้อมด้านเจ้าหน้าที่ เช่นบรรณารักษ์ห้องสมุด พยาบาล เจ้าหน้าที่ธุรการ ครูแนะแนว ฯลฯ
- นโยบายของโรงเรียน ในเรื่องของตารางการเรียนการสอนในแต่ละปีการศึกษา ชั่วโมงเรียนในแต่ละวัน กฏระเบียบ ลักษณะของการบ้าน การประเมินผล และการให้คะแนน เพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา
- ชื่อเสียงของโรงเรียน ซึ่งอาจจะมีทั้งด้านบวก และ ด้านลบ
- มาตรการรักษาความปลอดภัยของโรงเรียน เช่นในกรณีมีเหตุฉุกเฉิน เด็กเจ็บป่วย โรคระบาด โรงเรียนมีวิธีการจัดการอย่างไร ตลอดจน แนวทางหรือนโยบายการบริหารจัดการหากมีเด็กเกเร การทำร้ายร่างกายกัน ฯลฯ
- หลักสูตรของโรงเรียน โรงเรียนเน้นด้านการอ่านเขียน หรือเตรียมความพร้อม เน้นการใช้ภาษาต่างประเทศ หรือ เน้นวิชาการด้านคณิตศาสตร์และ วิทยาศาสตร์ผู้ปกครองควรพิจารณาว่าหลักสูตรของโรงเรียนเป็นไปตามความคาดหวัง และ จุดประสงค์สำหรับการศึกษาของเด็กหรือไม่
- การมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง และ ของชุมชน โรงเรียนบางแห่งต้องการให้พ่อแม่ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียน ผู้ปกครองควรสอบถามให้แน่ใจได้ว่า เมื่อลูกเข้าเรียนแล้ว ผู้ปกครองมีความพร้อม ทั้งด้านเวลา หรือกำลังทรัพย์ สำหรับการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ได้ตามที่โรงเรียนคาดหวังหรือไม่
ในวันที่เยี่ยมชมโรงเรียน พ่อแม่อาจจะประเมินคุณภาพของการเรียนการสอน โดยสังเกตจากบรรยากาศของโรงเรียน ว่าเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ก็ยังมีบรรยากาศของการส่งเสริมให้เด็กได้มีความคิดสร้างสรรค์ และ ดูเป็นมิตรกับเด็กหรือไม่ คุณอาจจะลองสังเกตดูด้วยว่า ผู้ใหญ่ทุกคนในโรงเรียน มีปฏิสัมพันธ์กับเด็กในลักษณะใด โรงเรียนรักษากฏระเบียบได้ตามที่ชี้แจงไว้หรือไม่ นอกจากนี้ การจัดวางโต๊ะเรียนภายในห้องเรียน ก็แสดงให้เห็นได้ว่า การเรียนการสอนเป็นแบบมีระบบระเบียบ หรือ ส่งเสริมให้เด็กได้เคลื่อนไหว และเรียนรู้ด้วยตัวเอง ซึ่งผู้ปกครองต้องตอบคำถามในใจตัวเองให้ได้ว่า ลูกของเรามีบุคลิกเหมาะกับกับการเรียนของโรงเรียนมากน้อยแค่ไหน อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้ปกครองควรจะปฏิบัติ คือ การพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ และ ผู้ปกครองของนักเรียน ว่าพวกเขามีความคิดเห็นว่า โรงเรียนนี้มีอะไรเป็นจุดเด่น หรือ มีอะไรเป็นข้อควรวิตกกังวลบ้าง ในระหว่างเยี่ยมชมโรงเรียน ผู้ปกครอง ควรสังเกตผลงานนักเรียนที่แสดงอยู่ตามผนังของโรงเรียน ตัวอย่างเช่น งานเขียน หรือ ผลงานศิลปะต่างๆ ซึ่งแสดงถึงศักยภาพของเด็กนักเรียนในโรงเรียนนั้นด้วย
แปลและเรียบเรียงโดย ภรณี ภูรีสิทธิ์ (ครูเก๋)